ข่าวสารองค์กร
September 6, 2021

เรียนรู้และปรับตัวในการทำงานพร้อมพัฒนาองค์กรไปสู่การทำ Digital Transformation กับ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ (COO)

“การทำ Digital Transformation ทำให้เกิดความคล่องตัวและปรับตัวสู้กับคู่แข่งทางธุรกิจได้มากขึ้น

HR จึงต้องทำการบ้านหนักขึ้น

นอกจากจะต้องจัดหาคนแล้ว

ยังต้องพัฒนาและรักษาคนเก่งๆ ให้ได้ด้วย”

โลกยุคปัจจุบันในช่วงไม่กี่ปีมานี้กำลังถูก disrupt เป็นอย่างมากจาก Digital Technology ซึ่งขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ เมื่อประสานแรงเข้ากับการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องยอมรับและปรับตัวให้เข้าสู่การใช้ชีวิตในวิถีใหม่ (New normal) ไปอีกนาน ทุกธุรกิจหรือทุกองค์กรจึงถูก disrupt ด้วยทั้ง 2 ปัจจัยบวกกัน ยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดกระบวนการปรับตัวแบบที่เรียกว่า Digital Transformation เพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น มิติทางการดำเนินธุรกิจขององค์กร, มิติทางวัฒธรรมองค์กร และมิติด้านประสบการณ์ลูกค้า    

ในส่วนของลูกค้าเองการพัฒนาของเทคโนโลยีและการปรับตัวของผู้บริโภคในยุค IoT (Internet of Things) หรือที่เรียกว่าสิ่งของแทบจะทุกอย่างจะถูกฝังด้วยเทคโนโลยีที่สามารถจะเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ทุกธุรกิจจึงต้องหันมาเพิ่มยอดขายให้ตอบโจทย์ได้อย่างรวดเร็วเท่าทันกับความต้องการของผู้บริโภค ข้อดีของการทำ Digital Transformation คือสร้างความยั่งยืนของธุรกิจได้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ รวมถึงการสะสมฐานข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้มากขึ้นผ่าน Internet of Behavior หรือ IoB ซึ่งเป็นการรวบรวมและจัดการข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดย IoT และข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ และเปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นองค์ความรู้ของเหตุการณ์พฤติกรรม เช่น การซื้อสินค้าและบริการ จากการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางด้าน data science/analytics เทคโนโลยีสมัยใหม่และความรู้ทางด้าน behavioral science จนนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมใหม่

ในส่วนขององค์กร การทำ Digital Transformation ทำให้เกิดความคล่องตัวขององค์กรเพิ่มมากขึ้น และปรับตัวสู้กับคู่แข่งทางธุรกิจได้มากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในยุคโควิด-19 ในองค์กรที่ Digital Transformation ไปเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะให้ พนักงาน Work from Home หรือ Work from Anywhere ได้ทันที ต่างจากองค์กรที่ยังต้องเปลี่ยนติดตั้งระบบใหม่ซึ่งต้องใช้เวลา นอกจากนั้นในมิติของ HR ตัวเร่งต่างๆ ที่พูดถึงไปทำให้เกิดเทรนด์ที่ทำให้องค์กรต้องปรับตัวหลายอย่าง เช่น ต้องกระชับองค์กรด้วยวิธีควบรวมตำแหน่งเพื่อให้พนักงานมีทักษะการทำงานมากกว่าประเภทเดียว, การเปิดรับพนักงานใหม่ที่เน้นงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวช่วยของธุรกิจ, การพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายขึ้น หรือมอบหมายงานให้รับผิดชอบโปรเจ็กต์สำคัญเพื่อสร้างรายได้ของธุรกิจให้เพิ่มขึ้น ฯลฯ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ตามแนวคิดเดิมอาจใช้ไม่ได้แล้วในปัจจุบัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด-19 คือ สภาพการจ้างงานจะเปลี่ยนไป HR จึงต้องทำการบ้านหนักขึ้นตามไปด้วย นอกจากจะต้องจัดหาคนแล้วยังต้องพัฒนาและรักษาคนเก่งๆ ให้ได้ด้วย

คุณบัณฑิต สีหะอำไพ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ COO