ข่าวสารองค์กร
June 17, 2024

VBEYOND ยื่นไฟลิ่งเสนอขาย IPO 230 ล้านหุ้น เข้า SET พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Prop Tech มุ่งสู่เบอร์ 1 โบรกเกอร์อสังหาฯ ชั้นนำ

“บมจ. วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์หรือ VBEYOND” เดินหน้ามุ่งสู่การเติบโตเป็น Prop Tech ให้บริการกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (OneStop Service) ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 230 ล้านหุ้นเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อนำเงินขยายธุรกิจเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ใช้เป็นเงินทุนขยายเสริมแกร่งธุรกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการ Online และระบบปฏิบัติการ สู่เป้าหมายการเป็น Global Business ในอนาคต โดยมี บจก.พาย แอ๊ดไวเซอรี่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายวรเดช รุกขพันธุ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ VBEYOND เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก โดยมีจำนวนหุ้น IPO ทั้งหมดที่เสนอขายให้นักลงทุนครั้งนี้จำนวน 230 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 27.71% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีบริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

การระดมทุนดังกล่าวจะนำไปใช้รองรับการเติบโตของVBEYOND เพิ่มความน่าเชื่อถือรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งนี้บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อ1.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันอาทิเช่น เงินทุนในการวางมัดจำเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิการบริหารการขายและเป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการประเภทบ้านมือสอง เป็นต้น2.ใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการ Online และระบบปฏิบัติการ และ 3.เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์จำกัด (มหาชน) หรือ VBEYONDประกอบธุรกิจนายหน้าตัวแทนในกิจการและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านออนไลน์เว้นแต่ในธุรกิจประกันภัย การหาสมาชิกให้สมาคมและการค้าหลักทรัพย์โดยบริษัทมีเป้าหมายเติบโตเป็น PropertyTechnology Company (Prop Tech) โดยบริษัทจะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (OneStop Service) ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำตลอดจนถึงปลายน้ำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่น การให้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์การให้บริการนายหน้าในการจัดหาผู้รับเหมาออกแบบ ซ่อมแซม ก่อสร้างและตกแต่งภายในนายหน้าด้านการให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น รวมถึงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสองเพื่อขาย

ปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทแบ่งประเภทในการประกอบธุรกิจออกป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจนายหน้า ตัวแทนในการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์และบริการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง 2.ธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และ 3.ธุรกิจลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นำมารีโนเวท เพื่อขายต่อ ประเภทบ้านมือสอง

โดย VBEYOND มีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่และบริการต่างๆโดยเปลี่ยนแปลงจากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และมีเป้าหมายเติบโตเป็น Property Technology Company (PropTech) ซึ่งเป็นรูปแบบที่นำสินค้าหลากหลายประเภทของอสังหาริมทรัพย์มารวมไว้ในplatform เดียวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ทั้งซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้างตกแต่ง และลงทุนพร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้มีการเติบโตไปสู่เป้าหมายการเป็น Global Business ในอนาคต

ด้านนายสัมฤทธิ์ชัยตั้งหะรัฐ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่จำกัด ได้กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของVBEYOND ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2564 – 2566)บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 194.19ล้านบาท 217.67 ล้านบาท และ 303.86 ล้านบาทตามลำดับและในงวด 3 เดือนแรก ปี 2566-2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 104.46 ล้านบาท และ57.33 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 27.07 ล้านบาท 58.55 ล้านบาท และจำนวน 112.03ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิร้อยละ 13.94 ร้อยละ 26.88 และร้อยละ 36.87ตามลำดับ โดยตลอด 3 ปี บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นผลสืบเนื่องจากการเติบโตของรายได้กลุ่มธุรกิจนายหน้าการขยายไปทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2564เริ่มทำธุรกิจนายหน้าจัดหาผู้รับเหมา และปี 2565เริ่มทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือสองเพื่อขายและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้สามารทำกำไรสุทธิได้สูงขึ้นทุกปี